00
วัน
00
ชั่วโมง
00
นาที
00
วินาที

CHECKLIST!Checklist! แค่ข้อเดียว ก็เสี่ยงสมรรถภาพเสื่อม

☐  นกเขาไม่ขัน น้องชายไม่แข็ง ไม่เคารพธงชาติตอนเช้า

☐  ภาวะพร่องฮอร์โมน

☐  อายุเริ่มมากขึ้น วัยทอง

☐  ความต้องการทางเพศลดลงแบบไร้สาเหตุ

☐  ระดับคอเลสเตอรอลสูง

☐  เป็นโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันสูง โรคอ้วน ภาวะหลอดเลือดและหัวใจ

☐  สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เป็นประจำ หรือใช้สารเสพติด

☐  ใช้ยาเสริมสมรรถภาพ หรือยาบางประเภท เป็นเวลานาน

☐  อวัยวะเพศผิดรูป (Peyronie’s disease)

☐  ปัญหาด้านจิตใจ ภาวะซึมเศร้า เครียด นอนไม่หลับ

☐  การหลั่งอสุจิผิดปกติ เช่น หลั่งช้า หลั่งเร็ว หรือไม่หลั่ง

☐  พฤติกรรมที่นั่งอยู่กับที่นานๆ ไม่ค่อยเคลื่อนไหว

☐  ออกกำลังกายบ่อยและหนักเกินไป

อายุ ไม่ใช่ตัวชี้วัดอีกต่อไป

สถิติน่ารู้เกี่ยวกับภาวะหย่อนสมรรถภาพเพศชาย
หรือ โรค ED (Erectile Dysfunction)
  • จากสถิติล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2565 พบว่าผู้ชายประมาณ 152 ล้านคนทั่วโลก เผชิญกับโรคนี้
  • ในวารสารทางการแพทย์ (IJIR) มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้ชายเป็น ED เพิ่มขึ้นเป็น 322 ล้านคนทั่วโลกในปี 2568
  • 45% ของผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ประสบภาวะ ED
  • กว่า 50% ของผู้ชายที่อายุ 50 ปี มีปัญหา ED
  • ผู้ชายที่อายุมากกว่า 40 ปีมีแนวโน้มที่จะเป็น ED มากกว่าคนที่อายุน้อยกว่าถึง 3 เท่า
  • 26% ของผู้ชายอายุน้อยกว่า 40 ปี เคยมีปัญหานกเขาไม่ขัน
รู้หรือไม่ว่า? มีเพียง 1 ใน 3 ของผู้ชายที่เป็น ED ที่เข้ารับการรักษา
และส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี

เข้าใจกลไกการแข็งตัวของน้องชาย

การแข็งตัวของอวัยวะเพศจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของ ระบบประสาทและหลอดเลือด ภายใต้การควบคุมของฮอร์โมน

เมื่อร่างกายได้รับการกระตุ้นจากสิ่งเร้าจากภายนอก (การสัมผัส | การได้ยิน | การมองเห็น | กลิ่น) หรือจากภายใน (จินตนาการ) 


สิ่งเร้าสั่งให้สมองส่งสัญญาณมาที่อวัยวะเพศ เพื่อหลั่งสาร Nitric Oxide ไปยังกล้ามเนื้อเรียบบริเวณผนังหลอดเลือดแดงให้เกิดการคลายตัว 


เนื้อเยื่อและเส้นเลือดที่มีอยู่จำนวนมากเกิดการขยายตัว ทำให้เลือดไปเลี้ยงน้องชายได้ 


ความดันที่ลดลงภายในหลอดเลือด ยิ่งทำให้เลือดไหลเข้าไปได้มากขึ้น 


อวัยวะเพศเกิดการแข็งตัว และกดหลอดเลือดดำ ทำให้การไหลกลับของเลือดลดลง

 
“หากขาดกลไกใดกลไกหนึ่งไป น้องชายก็ไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”

โรค ED หากปล่อยทิ้งไว้ จะส่งผลอย่างไรกับชีวิต

โรค ED หรืออาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เป็นภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวเพื่อมีเพศสัมพันธ์ได้ หรือแข็งตัวได้ไม่นานพอ ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ความผิดปกติของเส้นเลือด ระบบประสาท ฮอร์โมน หรือภาวะทางจิตใจ ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตด้านต่างๆดังนี้

  • ด้านสุขภาพ > เป็นสัญญาณเตือนว่ามีความเสี่ยงในการเกิดโรคระบบหลอดเลือดหัวใจและโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ ซึ่งหากผู้ป่วยไม่รู้ตัวหรือไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะส่งผลให้อาการรุนแรง และอาจเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่ออวัยวะสำคัญได้ 
  • ด้านจิตใจ > ความมั่นใจในตัวเองลดลง รู้สึกอับอาย ไม่มีความสุข ไม่สนใจการมีเพศสัมพันธ์ และอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า
  • ด้านความสัมพันธ์ > อาจเกิดความขัดแย้ง ความเหงา หรือการนอกใจ

 

“ยิ่งปล่อยทิ้งไว้นาน อาการจะยิ่งบานปลาย”

วิธีดูแลน้องชายให้ห่างไกลความเสื่อม

✔ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดี กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และลดความเสี่ยงโรค

✔ทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่มีโปรตีนและไขมันดี หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันไม่ดี เช่น อาหารสำเร็จรูป ของทอดและของหวาน 

✔นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ลดภาวะเครียด และเพิ่มการไหลเวียนเลือด

✔หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ สารในบุหรี่ส่งผลให้หลอดเลือดอักเสบ เกิดการตีบตัน เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงน้องชายได้ไม่สะดวก ฮอร์โมนเพศชายลดลง นอกจากนี้แอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไปยังส่งผลเสียต่อสมดุลฮอร์โมนเพศนวด

✔บริหารอวัยวะเพศเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดการสะสมของไขมันในหลอดเลือด

✔ตรวจสุขภาพและฮอร์โมนเพศชายอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อเช็คสุขภาพและระดับฮอร์โมนที่ส่งผลต่ออารมณ์ สมรรถภาพ และการทำงานของอวัยวะเพศ

Shockwave Therapy การรักษาภาวะ ED ที่ปลอดภัยและเห็นผล

เป็นการรักษาโดยใช้คลื่นที่มีพลังงานสูง ส่งไปยังต้นตอของปัญหา ทำให้เกิดการบาดเจ็บเล็กๆ (Micro-Injury) ในระดับที่เหมาะสม จากนั้นร่างกายจะทำการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและสร้างหลอดเลือดใหม่ ทดแทนหลอดเลือดที่เสียหาย ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้มากขึ้น อวัยวะเพศจึงแข็งตัวได้ดียิ่งขึ้นปกติเครื่อง Shockwave ที่ใช้รักษา ED ทั่วไป แยกเป็น 

 🎯  เครื่อง Focus ส่งคลื่นแบบตรงจุด ลงลึกถึงเนื้อเยื่อชั้นใน กระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่

 🎯  เครื่อง Radial ส่งพลังงานแบบกระจายกว้าง แก้ปัญหาเนื้อเยื่อชั้นนอก เพิ่มการไหลเวียนของเลือด

Shockwave TherapyStorz Duo Shockwave อีกขั้นของนวัตกรรมในการรักษา ED

𝐒𝐓𝐎𝐑𝐙 𝐃𝐔𝐎 𝐒𝐇𝐎𝐂𝐊𝐖𝐀𝐕𝐄 ล่าสุดจาก 𝐒𝐖𝐈𝐓𝐙𝐄𝐑𝐋𝐀𝐍𝐃 ผสานทุกคุณสมบัติเด่นของ Focus และ Radial อย่างลงตัวในเครื่องเดียว ทั้งการรักษาที่ตรงจุดแบบ Focus ลงลึกถึงปัญหาที่ซ่อนในระดับเซลล์ และการกระจายคลื่นกว้างแบบ Radial เพื่อฟื้นฟูเนื้อเยื่อชั้นนอก

ทำไมต้อง Storz Duo Shockwave?

✔  รักษาได้ทุกระดับความลึกของปัญหา

✔  แก้ไขที่ต้นเหตุ ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้มากขึ้น

✔  การแข็งตัวดีขึ้น เพิ่มความทนทาน

✔  เป็นเครื่องรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน ร.พ.ชั้นนำ (ซึ่งปกติในระดับคลินิกจะไม่มี)

✔  เป็นตัวที่ใช้อ้างอิงในงานวิจัยด้านต่างๆ

✔  ได้มาตรฐาน US FDA และ อย.ไทย

✔  ไม่ต้องผ่าตัด | ปลอดภัย | ใช้เวลาไม่นาน

✔  ทำได้แม้มีโรคประจำตัว

“ทุกเคสอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ด้านสุขภาพเพศ (Sexual Medicine) และแพทย์เฉพาะทาง Preventive Medicine”

Add Line@ เพื่อรับโปรโมชั่น

แนวทางการรักษา ED ที่ Max Wellness Clinic

  1. การใช้ยาและอาหารเสริม
  2. Storz Duo Shockwave Therapy สร้างเส้นเลือดฝอยใหม่และซ่อมแซมเส้นเลือดฝอยที่เสียหาย
  3. P-Shot ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อและหลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศชาย
  4. IV Drip การให้วิตามินทางหลอดเลือดดำผ่านสายน้ำเกลือ
  5. Testosterone & Hormone optimization การให้ฮอร์โมนทดแทน ในกรณีพร่องฮอร์โมนเพศชายและฮอร์โมนประกอบอื่นๆ ที่่เกี่ยวข้อง

    หมายเหตุ : ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับระดับอาการของแต่ละบุคคล*

ทีมแพทย์ EDทีมแพทย์ ED

Reviewรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง

[grw id=1681]
00
วัน
00
ชั่วโมง
00
นาที
00
วินาที

จองตอนนี้  แถมฟรี! ปรึกษาแพทย์ ตรวจสุขภาพเบื้องต้น

  • เช็คตารางแพทย์และนัดล่วงหน้าเท่านั้น
  • เฉพาะลูกค้าใหม่ที่จองผ่านช่องทางออนไลน์
  • แพคเกจมีอายุ 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ทำการจอง

    Add Line@ เพื่อรับโปรโมชั่น  
    สอบถามเพิ่มเติม โทร 065 376 9555

ติดต่อเราติดต่อเรา

Facebook
Youtube
Instragram
Line
Tiktok