PrEP ย่อมาจาก (pre-exposure prophylaxis) คือ การใช้ยาต้านไวรัสกลุ่มที่ชื่อว่า Antitretroviral ซึ่งเป็นยากลุ่มที่มีคุณสมบัติในการควบคุมและลดการแบ่งตัวของเชื้อเอชไอวีมาประยุกต์ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV
ยา PrEP จึงเหมาะกับคนที่ยังไม่ติดเชื้อ HIV แต่มีความเสี่ยงในการรับเชื้อผ่านการมี Sex หรือการใช้สารเสพติดหรือ Recreational Drug ที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
ก่อนรับยา PrEP ทุกคนควรได้รับการตรวจเลือดดังนี้:
ก่อนรับ PrEP ทุกคนควรได้รับการตรวจให้แน่ใจว่าไม่ได้ติดเชื้อ HIV อยู่แล้ว เพราะยาที่ใช้รักษาคนที่ติดเชื้อ HIV กับยาที่ใช้ป้องกัน มีสูตรยาที่แตกต่างกัน การรับ PrEP โดยที่มีเชื้อ HIV อยู่แล้วอาจบดบังอาการ ทำให้ตรวจไม่พบเชื้อ คนไข้เสียโอกาสที่จะได้รักษา และเกิดการดื้อยาต้านเชื้อในอนาคตได้
ก่อนรับ PrEP ทุกคนควรได้รับการตรวจวัดระดับการทำงานของไต เพื่อใช้ในการเลือกยาสูตรที่เหมาะสม และเพื่อใช้เป็นค่า baseline ในการตรวจติดตามระหว่างรับยา
ยา PreP แต่ละสูตร เหมาะกับคนไข้ที่มีระดับค่าการทำงานของไตต่างกันไป:
ถ้าไม่เคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่เคยได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีมาก่อน ก่อนรับ PrEP ควรได้รับการตรวจหาเชื้อทุกคน การมีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีไม่ใช่ข้อห้ามในการใช้ PrEP และยา PrER บางสูตรเป็นตัวที่ใช้รักษาไวรัสตับอักเสบบีอยู่แล้ว แต่ถ้าคนไข้ไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อแล้วหยุดยา PrEP จะทำให้เชื้อไวรัสตับอักเสบบีแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว (rebound) จนเกิดความเสียหายต่อตับได้
ยา PrEP บางสูตร เช่น F/TAF ต้องตรวจระดับ Cholesterol และ Triglyceride ก่อนให้
ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อเอชไอวีทุก 3 เดือน เพื่อยืนยันว่ายังไม่ได้รับเชื้อ เพราะหากติดเชื้อเอชไอวีแล้ว ยา PrEP ที่ทานอยู่จะไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการรักษา แพทย์จะต้องทำการเปลี่ยนสูตรยาให้
ยา PrEP ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ซิฟิลิส, หนองในแท้, หนองในเทียม ฯลฯ ได้ จึงควรตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD: Sexually transmitted disease) ทุก 3-6 เดือน วิธีและความถี่ในการตรวจแพทย์จะพิจารณาจากความเสี่ยงของพฤติกรรมทางเพศของผู้รับ PrEP เช่น การเจาะเลือด, เก็บปัสสาวะ, หรือการป้ายเก็บสารคัดหลั่ง (Swab) จากช่องปาก, ทวารหนัก, หรือช่องคลอด
ทุกๆ 3-6 เดือน แพทย์อาจพิจารณาตรวจถี่ขึ้น ถ้าคนไข้มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือทานยาอื่นที่มีผลต่อการทำงานของไต (ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs) หากค่าไตแย่ลงมาก แพทย์อาจต้องให้คนไข้หยุดทาน PrEP
หากทาน PrEP สม่ำเสมอตามที่แพทย์สั่งจะสามารถลดโอกาสติดเชื้อ HIV จากการมีเพศสัมพันธ์ได้ถึง 99% และสามารถลดโอกาสติดเชื้อ HIV จากการใช้เข็มฉีดยาเสพสารเสพติดหรือ recreational drug ได้อย่างน้อย 74%
เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับและมีข้อมูลว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ HIV จากข้อมูลในปัจจุบันพบว่า จำนวนวันที่ระดับยา PrEP ในร่างกายจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่ป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้ มีดังนี้
ยา PrEP บางสูตร เช่น F/TDF อาจสามารถทานแบบนอกวิธีมาตราฐาน (off-label) 2-1-1 ได้ ในกลุ่มเพศชายที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชายด้วยกัน (MSM: Men who have sex with men) คือ
อย่างไรก็ตามวิธีนี้ไม่ได้รับการรับรองจากทาง CDC (Centers for Disease Control and Prevention) ของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะตัดสินใจเลือกว่าจะทานยาสูตรใดและแบบไหน
กรณีไม่อยากทานยา PrEP อีกต่อไปไม่ควรหยุดทันที ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงของการรับเชื้อ ระดับยา PrEP หลังหยุดยาอาจอยู่ได้นาน 7-10 วัน และควรหาวิธีทางเลือกอื่นในการป้องกันการติดเชื้อ HIV หากยังมีความเสี่ยงในการรับเชื้ออยู่
สำหรับผู้ที่อยู่ในกรุงเทพมหานครสามารถรับยา PrEP ได้ตามสถานพยาบาลดังต่อไปนี้
หากใครไม่สะดวกในการเดินทาง ไม่อยากรอคิวนาน และอยากได้ความรวดเร็ว เป็นส่วนตัว ก็สามารถเข้ารับบริการยา PrEP พร้อมปรึกษาทีมแพทย์ด้านสุขภาพเพศและทีมแพทย์เฉพาะทางที่ Max Wellness Clinic ได้เลยครับ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถาม ท่านสามารถกรอกรายละเอียดทางด้านล่าง ทางเราจะติดต่อกลับไปโดยเร็วที่สุด
All rights reserved © 2024 Max Wellness Clinic