SERVICEการรักษาหูดอวัยวะเพศและทวารหนัก

Genital Wart – Diagnosis written on a piece of white paper with medication injection, syringe and pills

หูดที่อวัยวะเพศเป็นติ่งเนื้อผิดปกติที่ค่อย ๆ โตขึ้น โดยทั่วไปมักจะไม่มีอาการแต่ทำให้ไม่น่ามอง หากมีอาการ อาจจะทำให้รู้สึกปวด หรือมีอาการคัน 

การวินิจฉัย

หูดที่อวัยวะเพศมักได้รับการวินิจฉัยจากลักษณะภายนอก บางครั้งอาจจำเป็นต้องตัดชิ้นเนื้อเพื่อการส่งตรวจ

การรักษา

เพื่อป้องกันและลดการกระจายของเชื้อ การใช้ยาหรือการผ่าตัดสามารถช่วยลดการกระจายของเชื้อได้ อย่างไรก็ตาม หูดอาจมีโอกาสกลับมาอีกหลังการรักษา 

การรักษาหูดที่อวัยวะเพศด้วยการทายา :

Imiquimod (Aldara) โดยยาตัวนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับหูด ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในขณะที่ครีมอยู่บนผิว เนื่องจากจะทำให้มีระคายเคืองผิวของคู่นอนได้ 

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่ ผิวมีรอยแดง ระคายเคือง คัน ผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น มีแผลพุพอง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอ ผื่น และมีอาการเหนื่อยล้า

โพโดฟิลลินและโพโดฟิล็อกซ์ (Condylox) โพโดฟิลลินเป็นเรซินจากพืชที่ทำลายเนื้อเยื่อหูดที่อวัยวะเพศ Podofilox มีสารประกอบออกฤทธิ์เหมือนกัน สามารถทาที่บ้านเองได้ แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังและอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ ไม่แนะนำให้ใช้ยาตัวนี้ในระหว่างตั้งครรภ์ 

กรดไตรคลอโรอะซิติก (TCA) การรักษาด้วยสารเคมีนี้จะทำลายหูดที่อวัยวะเพศ และสามารถใช้รักษาหูดภายในได้ ผลข้างเคียงอาจรวมถึงการระคายเคืองผิวหนังเล็กน้อย ทำให้เกิดแผลและปวดบริเวณที่ทำการรักษาได้ 

การผ่าตัด การเลือกวิธีการผ่าตัด แนะนำในกรณีที่มีหูดขนาดใหญ่ หรือทำการรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล หรืออยู่ขณะตั้งครรภ์ เพื่อลดความเสี่ยงการสัมผัส ระหว่างการคลอดบุตร การผ่าตัดจะทำภายได้การฉีดยาชาเฉพาะจุด 

การจี้เย็นด้วยไนโตรเจนเหลว (cryotherapy) การจี้เย็นทำให้เกิดตุ่มพองรอบๆ หูด ขณะที่แผลหาย ตัวหูดก็จะหลุดออก ทำให้ผิวใหม่ปรากฏขึ้น อาจจำเป็นต้องได้รับการรักษามากกว่า 1 ครั้ง ผลข้างเคียง ได้แก่ อาการปวดและบวมหลังทำการรักษา 

การจี้ไฟฟ้า ขั้นตอนนี้ใช้การจี้ร้อนเพื่อเผาหูด ทำให้มีอาการปวดและบวม และมีแผลหลังการทำหัตถการ

รักษาด้วยเลเซอร์ เป็นการรักษาด้วยลำแสงเข้มข้น อาจมีราคาแพงและมักใช้ในกรณีที่หูดขยายวงกว้างและรักษายาก