ทำความรู้จักกับนักเพศวิทยา (Sexologist) ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทางเพศ

นักเพศวิทยาในประเทศไทย: การดูแลสุขภาพทางเพศและบทบาทสำคัญของนักเพศวิทยา

นักเพศวิทยา (Sexologist) คือผู้เชี่ยวชาญที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทางเพศ ทั้งในด้านปัญหาทางเพศ จิตวิทยา ความสัมพันธ์ ไปจนถึงการรักษาทางกายภาพ เพื่อส่งเสริมสุขภาพทางเพศที่ดี

ในประเทศไทย การให้คำปรึกษาและการบำบัดทางเพศเป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากปัญหาทางเพศ เช่น การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) การหลั่งเร็ว ความวิตกกังวลทางเพศ และปัญหาความสัมพันธ์ต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ

บทบาทของนักเพศวิทยาในประเทศไทย

นักเพศวิทยาในประเทศไทยคือผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทางหรือการศึกษาทางด้านเพศวิทยา (Sexology) และมุ่งเน้นการให้คำปรึกษา การวินิจฉัย และการบำบัดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทางเพศอย่างมืออาชีพ นักเพศวิทยาสามารถทำงานร่วมกับแพทย์ นักจิตวิทยา และนักบำบัดด้านต่าง ๆ เพื่อให้การดูแลแบบครบวงจรแก่ผู้ป่วย โดยนักเพศวิทยามีบทบาทที่สำคัญดังนี้:

  1. ให้คำปรึกษาและการบำบัดทางจิตใจ: เนื่องจากปัญหาทางเพศอาจมีสาเหตุมาจากความเครียด ความวิตกกังวล หรือความกดดัน นักเพศวิทยาจะช่วยให้คำแนะนำและแนวทางการจัดการอารมณ์ที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศได้อย่างตรงจุด
  2. การให้ข้อมูลและแนะนำวิธีรักษา: นักเพศวิทยาสามารถแนะนำวิธีการบำบัดต่าง ๆ ทั้งทางจิตใจและกายภาพ รวมถึงการใช้ยา การทำกิจกรรมทางเพศที่เสริมสุขภาพ หรือการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศด้วยการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
  3. การช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องเพศ: นักเพศวิทยามีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศ การสื่อสารระหว่างคู่รัก การเสริมสร้างความเข้าใจและเคารพความต้องการทางเพศของคู่รัก ซึ่งช่วยลดปัญหาทางเพศที่เกิดจากความเข้าใจผิดหรือการขาดการสื่อสาร

ประเภทของปัญหาที่นักเพศวิทยาดูแล

นักเพศวิทยามีความเชี่ยวชาญในการดูแลปัญหาหลากหลายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทางเพศ เช่น:

  • การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction): การที่ผู้ชายไม่สามารถคงการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้
  • การหลั่งเร็ว (Premature Ejaculation): การถึงจุดสุดยอดเร็วเกินไปซึ่งทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของคู่รักได้เต็มที่
  • การถึงจุดสุดยอดยาก (Delayed Ejaculation): ผู้ชายที่ใช้เวลานานในการถึงจุดสุดยอดหรือไม่สามารถถึงจุดสุดยอดได้เลย
  • การไม่ถึงจุดสุดยอดในผู้หญิง (Female Anorgasmia): การที่ผู้หญิงไม่สามารถถึงจุดสุดยอดได้ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยทางร่างกายหรือจิตใจ
  • ความต้องการทางเพศลดลง (Low Libido): การขาดความต้องการทางเพศที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์
  • ปัญหาทางจิตใจที่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศ: เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น

เมื่อไหร่ที่ควรพบนักเพศวิทยา

หลายคนอาจไม่แน่ใจว่าเมื่อใดควรจะไปพบนักเพศวิทยา ต่อไปนี้คือสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่าอาจถึงเวลาที่ควรขอคำปรึกษาจากนักเพศวิทยา:

  1. มีปัญหาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือการถึงจุดสุดยอด: หากคุณประสบปัญหาในการถึงจุดสุดยอดหรือมีปัญหาในการแข็งตัวของอวัยวะเพศเป็นประจำ การพบนักเพศวิทยาจะช่วยในการวินิจฉัยและแนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม
  2. รู้สึกกังวลหรือเครียดเกี่ยวกับเรื่องเพศ: ความเครียดหรือความกังวลที่มากเกินไปในเรื่องเพศ อาจส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศลดลง นักเพศวิทยาสามารถช่วยให้คำปรึกษาและแนวทางในการจัดการอารมณ์เพื่อให้คุณกลับมามีความมั่นใจได้อีกครั้ง
  3. ความต้องการทางเพศลดลง: ถ้าคุณหรือคู่รักพบว่าความต้องการทางเพศลดลง อาจเป็นผลมาจากปัจจัยทางสุขภาพ อารมณ์ หรือความสัมพันธ์ การพบนักเพศวิทยาสามารถช่วยหาสาเหตุและเสนอแนวทางแก้ไข
  4. มีปัญหาความสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อเรื่องเพศ: บางครั้งปัญหาทางเพศอาจเกิดจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดหรือขาดการสื่อสารที่ดี นักเพศวิทยาจะช่วยแนะนำวิธีการสื่อสารและการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันในความสัมพันธ์
  5. ต้องการเพิ่มความพึงพอใจทางเพศ: การพบนักเพศวิทยาไม่ได้มีเพียงสำหรับผู้ที่มีปัญหาเท่านั้น หากคุณหรือคู่รักต้องการพัฒนาความพึงพอใจทางเพศ ก็สามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเทคนิคหรือวิธีการเสริมสร้างความสุขในเรื่องเพศได้เช่นกัน

การเตรียมตัวก่อนพบแพทย์

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับคำปรึกษากับนักเพศวิทยาสามารถช่วยให้คุณได้ประโยชน์สูงสุดจากการเข้ารับบริการ ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการเตรียมตัว:

  1. บันทึกปัญหาที่กังวล: การจดบันทึกปัญหาหรือข้อสงสัยที่คุณต้องการพูดคุยช่วยให้คุณเตรียมตัวในการสนทนากับนักเพศวิทยาได้ดีขึ้น
  2. พาคู่รักเข้าร่วม: หากปัญหาทางเพศมีผลต่อความสัมพันธ์ การเข้ารับคำปรึกษาร่วมกันสามารถช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจซึ่งกันและกันได้มากขึ้น
  3. เปิดใจและพร้อมพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา: นักเพศวิทยามีความเข้าใจและไม่ตัดสิน การเปิดใจพูดคุยถึงปัญหาทำให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผล
  4. ตั้งเป้าหมายในการบำบัด: การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้คุณสามารถติดตามผลและเห็นพัฒนาการที่ชัดเจนขึ้น

ตัวอย่างเคสที่พบนักเพศวิทยาบ่อย ๆ

  1. ผู้ที่มีปัญหาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในวัยกลางคน: มักเป็นผู้ชายที่มีภาวะเครียดและกังวลเกี่ยวกับการทำงานหรือการเงิน ซึ่งนักเพศวิทยาช่วยบำบัดทั้งในด้านอารมณ์และการใช้วิธีการบำบัดที่เหมาะสม
  2. คู่รักที่ประสบปัญหาความสัมพันธ์และการขาดความเข้าใจเรื่องเพศ: นักเพศวิทยาแนะนำเทคนิคการสื่อสารที่ช่วยเพิ่มความเข้าใจและความใกล้ชิดของทั้งสองฝ่าย
  3. ผู้ที่ผ่านเหตุการณ์กระทบจิตใจ: ผู้ที่เคยผ่านเหตุการณ์ที่มีผลกระทบทางจิตใจซึ่งส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ มักต้องการการบำบัดทางจิตวิทยาและการฟื้นฟูจิตใจควบคู่กัน

ประโยชน์จากการปรึกษานักเพศวิทยาในประเทศไทย

การได้รับคำปรึกษาจากนักเพศวิทยาที่มีความเชี่ยวชาญในประเทศไทยมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้:

  • เพิ่มความมั่นใจในการจัดการปัญหา: นักเพศวิทยาจะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาและวางแผนการแก้ไขปัญหาทางเพศได้อย่างมั่นใจ
  • การจัดการอารมณ์และความสัมพันธ์: นักเพศวิทยาช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีการจัดการอารมณ์ที่มีผลต่อสุขภาพทางเพศ และการสื่อสารในความสัมพันธ์
  • ลดความรู้สึกอับอายและความกลัว: นักเพศวิทยาที่มีความเข้าใจและไม่ตัดสินผู้ป่วยจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นในการพูดคุยเรื่องเพศ
  • พัฒนาทักษะในการสร้างความสุขในเรื่องเพศ: นักเพศวิทยาสามารถแนะนำเทคนิคและวิธีการที่จะทำให้คุณมีความพึงพอใจในชีวิตทางเพศมากขึ้น

การพบและปรึกษานักเพศวิทยาในประเทศไทย

ในประเทศไทย มีสถานพยาบาลและคลินิกหลายแห่งที่มีบริการทางเพศวิทยาและการบำบัดที่ครบวงจร เช่น คลินิกเฉพาะทางทางเพศ ศูนย์สุขภาพจิต และโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อและขอคำปรึกษาได้จากสถานพยาบาลเหล่านี้ ซึ่งนักเพศวิทยาพร้อมที่จะให้คำแนะนำและดูแลผู้ที่มีปัญหาทางเพศอย่างมืออาชีพ

บทสรุป

นักเพศวิทยามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเพศมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการบำบัดและให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ ในประเทศไทย การได้รับคำปรึกษาเรื่องเพศจากนักเพศวิทยาเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ เนื่องจากปัญหาทางเพศเป็นสิ่งที่สามารถส่งผลกระทบได้ทั้งทางจิตใจและร่างกาย การดูแลสุขภาพทางเพศจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและไม่ควรละเลย

นพ.ธนาคม สุขเจริญ
แพทย์ด้านสุขภาพเพศ และแพทย์เฉพาะทาง Preventive Medicine
ประจำ Max Wellness Clinic

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เมื่อพูดถึงการขริบอวัยวะเพศชาย การเลือกวิธีที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการขริบแบบ Sleeve, Free Hand หรือ Stapler แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป การขริบแบบ Sleeve เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ ขณะที่การขริบแบบ Free Hand อาจเป็นทางเลือกที่รวดเร็วและไม่ซับซ้อน แต่ต้องการทักษะและความชำนาญของแพทย์สูง ส่วนการขริบแบบ Stapler นั้นโดดเด่นด้วยความรวดเร็วและความแม่นยำ แต่ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง การตัดสินใจเลือกวิธีใดควรพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงสุขภาพของผู้ป่วย ความต้องการของผู้ป่วย และความชำนาญของแพทย์