KNOWLEDGEหนุ่มๆชาวออฟฟิศทั้งหลาย รู้ไหมว่า การทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานาน ส่งผลต่อสมรรถภาพของน้องชายได้นะ!

หนุ่มๆชาวออฟฟิศทั้งหลาย รู้ไหมว่า การทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานาน ส่งผลต่อสมรรถภาพของน้องชายได้นะ!

 

“ธรรมชาติสร้างให้ร่างกายของมนุษย์ต้องเคลื่อนไหว ไม่ได้ถูกสร้างมาให้นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานๆ”

 

แม้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันจะทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายมากขึ้น แต่การนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์หรือใช้เวลานั่งอยู่หน้าจอทีวี โดยไม่ขยับเขยื้อนร่างกายติดต่อกันนานหลายๆชั่วโมงเป็นประจำ นอกจากจะส่งผลกระทบกับร่างกายและสุขภาพโดยรวมแล้ว ยังส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศชายได้ด้วย

 

ระบบการไหลเวียนเลือดลดลง

ปัจจัยหลักในการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย คือการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะเพศจะต้องมีมากพอ 

ฉะนั้นการนั่งทับน้องชายเป็นเวลานาน จึงส่งผลต่อการแข็งตัว เนื่องจากเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงน้องชายลดลง 

 

ความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน 

การนั่งอยู่กับที่นานๆเป็นประจำ มีโอกาสทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและเป็นโรคอ้วน ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ที่มีบทบาทสำคัญต่อความต้องการทางเพศ การแข็งตัว และการควบคุมการหลั่งอสุจิ

 

อีกทั้งโรคอ้วนยังเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของภาวะนกเขาไม่ขันหรือ ED (Erectile Dysfunction) 

 

ลดการผลิตอสุจิและคุณภาพของตัวอสุจิ

การนั่งนานๆ ทุกวัน อาจมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของตัวอสุจิ เนื่องจากอุณหภูมิบริเวณอัณฑะที่สูงขึ้น 

 

ปัจจัยทางจิตวิทยา

ความเครียดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ อาจส่งผลต่อฮอร์โมนเพศชาย ทำให้อารมณ์ทางเพศลดลง มีปัญหาการหลั่งเร็ว

 

นอกจากนี้การนั่งนานๆยังส่งผลต่อความดันในหลอดเลือด เสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดขอด และยังส่งผลทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและขาอ่อนแรงได้อีกด้วย

 

แนวทางการป้องกันความเสื่อมสมรรถภาพ สำหรับผู้ชายที่ต้องทำงานอยู่กับที่

  1. พักเบรค ขยับร่างกาย ทุกๆ 30-60 นาที และเปลี่ยนจากการขึ้นลิฟท์ เป็นการใช้บันได
  2. ถ้ามีงบประมาณ แนะนำให้เปลี่ยนจากโต๊ะธรรมดา เป็นโต๊ะยืน หรือโต๊ะปรับระดับ เพื่อสลับระหว่างนั่งกับยืนได้
  3. ลองหาเบาะรองนั่ง Feagar หรือเบาะโดนัท เพื่อลดอุณหภูมิความร้อนและการกดทับ
  4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์
  5. ทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป น้ำอัดลม ไขมันอิ่มตัว 
  6. งดสูบบุหรี่ และลดปริมาณแอลกอฮอลล์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
  7. ตรวจสุขภาพประจำปี 
  8. ปรึกษาแพทย์หากมีปัญหาเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ

 

หากคุณผู้ชายท่านใดเริ่มมีสัญญาณของอาการนกเขาไม่ขัน แนะนำให้รีบเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ด้านสุขภาพเพศหรือแพทย์เฉพาะทาง เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่ถูกต้อง “อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะอาการจะยิ่งบานปลาย” ครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Plaque ต้นตอสำคัญของภาวะนกเขาไม่ขัน

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ED เป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้ชาย พบได้บ่อยในผู้ชายวัยกลางคนและวัยสูงอายุ โดยสาเหตุหลักๆ ของ ED เกิดจากความเสื่อมของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศชาย ความผิดปกติของฮอร์โมน และโรคประจำตัว การรักษาภาวะ ED หรือนกเขาไม่ขันมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค เช่น การใช้ยา การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ การใช้เวชศาสตร์ฟื้นฟู ไปจนถึงการผ่าตัด ในปัจจุบันเราจะเริ่มได้ยินเรื่องการใช้สเต็มเซลล์ (Stem Cell) หรือเซลล์บำบัด (Stem Cell Therapy) มาใช้ในการรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (ED: Erectile Dysfunction) กันมากขึ้น หลายๆที่มีการทำการตลาดกันอย่างหนัก และมีการอ้างถึงประสิทธิภาพของเซลล์บำบัดว่าคือยาวิเศษที่ไร้ข้อจำกัดในการรักษา สามารถทำให้อวัยวะเพศกลับมาแข็งได้ แต่ในความเป็นจริง สเต็มเซลล์ ก็มีข้อจำกัดเหมือนวิธีการรักษาอื่นๆ ซึ่งมีทั้งผู้ที่รับผลลัพธ์ดีและผู้ที่ไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ดีมากนัก ขึ้นอยู่กับสภาวะของร่างกายในแต่ละบุคคล ฉะนั้นการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสเต็มเซลล์ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษาจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง