10 อาหารเสริมยอดนิยมที่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศชาย: ข้อเท็จจริงจากงานวิจัย

สมรรถภาพทางเพศเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิตของผู้ชายหลายคน อาหารเสริมบางชนิดถูกเสนอว่ามีประโยชน์ในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและความต้องการทางเพศ บทความนี้จะพูดถึง 10 อาหารเสริมที่ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งข้อเท็จจริงที่สนับสนุนและคัดค้านจากงานวิจัย รวมถึงขนาดที่แนะนำจากงานวิจัย

1. แอล-อาร์จินีน (L-arginine)

ประโยชน์และผลการศึกษาที่สนับสนุน
แอล-อาร์จินีน เป็นกรดอะมิโนที่มีบทบาทในการสร้างไนตริกออกไซด์ ซึ่งช่วยในการขยายหลอดเลือด งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า แอล-อาร์จินีน สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศและช่วยในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction – ED)

การศึกษาในปี 1999 ที่เผยแพร่ในวารสาร BJU International พบว่า แอล-อาร์จินีน สามารถช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่มีภาวะ ED อ่อนถึงปานกลาง การศึกษาอื่น ๆ เช่น การศึกษาที่เผยแพร่ใน Journal of Sexual & Marital Therapy ในปี 2003 ก็พบผลลัพธ์ที่คล้ายกัน

ข้อสังเกต
งานวิจัยบางชิ้นไม่พบผลที่ชัดเจนจากการใช้ แอล-อาร์จินีน โดยเฉพาะในผู้ชายที่มีภาวะ ED รุนแรง นอกจากนี้ การใช้ แอล-อาร์จินีน อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง และท้องร่วง

การศึกษาในปี 2006 ที่เผยแพร่ใน International Journal of Impotence Research พบว่า แอล-อาร์จินีน ไม่มีผลต่อการปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่มีภาวะ ED รุนแรง ทำให้เกิดข้อสงสัยในประสิทธิภาพของ แอล-อาร์จินีน ในบางกรณี

ขนาดที่แนะนำ
หากอ้างอิงตามงานวิจัยแนะนำปริมาณการใช้ แอล-อาร์จินีน ในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศอยู่ที่ประมาณ 3-5 กรัมต่อวัน ซึ่งควรแบ่งรับประทานเป็นสองถึงสามครั้ง

2. โสมเปรู (Maca)

ประโยชน์และผลการศึกษาที่สนับสนุน
โสมเปรู หรือเรียกอีกชื่อว่า “มาคา” เป็นพืชที่มีการใช้ในแถบเทือกเขาแอนดีส อเมริกาใต้ เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่า โสมเปรู สามารถเพิ่มความต้องการทางเพศในผู้ชายและผู้หญิงได้

การศึกษาในปี 2002 ที่เผยแพร่ใน Andrologia พบว่า โสมเปรู สามารถเพิ่มความต้องการทางเพศในผู้ชายที่มีอายุ 21-56 ปี การศึกษาอื่น ๆ ในปี 2009 ที่เผยแพร่ใน CNS Neuroscience & Therapeutics ก็สนับสนุนผลลัพธ์นี้ โดยพบว่า โสมเปรู มีผลดีต่อความต้องการทางเพศและสมรรถภาพทางเพศ

ข้อสังเกต
งานวิจัยบางชิ้นพบว่า โสมเปรู ไม่มีผลชัดเจนในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและความต้องการทางเพศในกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่

การศึกษาในปี 2011 ที่เผยแพร่ใน BMC Complementary and Alternative Medicine ไม่พบผลที่มีนัยสำคัญจากการใช้ โสมเปรู ในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่มีภาวะ ED ซึ่งชี้ให้เห็นว่า โสมเปรู อาจไม่มีผลในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในทุกกรณี

ขนาดที่แนะนำ
ปริมาณที่แนะนำในการใช้ โสมเปรู คือประมาณ 1.5-3 กรัมต่อวัน ซึ่งสามารถแบ่งรับประทานเป็นสองถึงสามครั้ง

3. โคกกระสุน (Tribulus)

ประโยชน์และผลการศึกษาที่สนับสนุน
โคกกระสุน เป็นพืชที่มีการใช้ในยาพื้นบ้านหลายประเทศเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ งานวิจัยบางชิ้นพบว่า โคกกระสุน สามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและเพิ่มความต้องการทางเพศได้

การศึกษาในปี 2008 ที่เผยแพร่ใน Journal of Ethnopharmacology พบว่า โคกกระสุน สามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและสมรรถภาพทางเพศในสัตว์ทดลอง การศึกษาในมนุษย์ที่เผยแพร่ใน Phytomedicine ในปี 2012 ก็พบผลลัพธ์ที่คล้ายกัน

ข้อสังเกต
อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ไม่พบหลักฐานชัดเจนว่า โคกกระสุน สามารถเพิ่มสมรรถภาพทางเพศหรือระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในมนุษย์ได้ นอกจากนี้ การใช้พืชชนิดนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่น การปวดท้อง และการเกิดผื่นแพ้

การศึกษาในปี 2005 ที่เผยแพร่ใน International Journal of Sport Nutrition and Exercise Metabolism ไม่พบผลที่มีนัยสำคัญจากการใช้ โคกกระสุน ในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศหรือระดับฮอร์โมนในนักกีฬาชาย ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยในประสิทธิภาพของพืชชนิดนี้

ขนาดที่แนะนำ
ปริมาณที่แนะนำในการใช้ โคกกระสุน คือประมาณ 250-1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งควรแบ่งรับประทานเป็นสองถึงสามครั้ง

4. โสมเกาหลี (Ginseng)

ประโยชน์และผลการศึกษาที่สนับสนุน
โสมเกาหลี เป็นพืชที่มีการใช้ในทางการแพทย์มานานหลายศตวรรษ มีงานวิจัยชี้ว่าโสมเกาหลี สามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและช่วยลดภาวะ ED ได้ โดยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและการทำงานของระบบประสาท

การศึกษาในปี 2002 ที่เผยแพร่ใน Journal of Urology พบว่า โสมเกาหลี สามารถช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่มีภาวะ ED ได้ การศึกษาอื่น ๆ ในปี 2008 ที่เผยแพร่ใน British Journal of Clinical Pharmacology ก็สนับสนุนผลลัพธ์นี้

ข้อสังเกต
งานวิจัยบางชิ้นไม่พบผลที่ชัดเจนจากการใช้ โสมเกาหลี ในการรักษาภาวะ ED และการใช้โสมเกาหลี อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่น การนอนไม่หลับ ปวดหัว และท้องเสีย

การศึกษาในปี 2010 ที่เผยแพร่ใน American Journal of Clinical Nutrition ไม่พบผลที่มีนัยสำคัญจากการใช้ โสมเกาหลี ในการปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่มีสุขภาพดี ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยในประสิทธิภาพของโสมเกาหลี

ขนาดที่แนะนำ
ปริมาณที่แนะนำในการใช้ โสมเกาหลีสกัด คือประมาณ 200 มิลลิกรัมต่อวัน

5. หญ้าแพะหงี่ (Horny Goat Weed)

ประโยชน์และผลการศึกษาที่สนับสนุน
หญ้าแพะหงี่ เป็นพืชที่มีการใช้ในยาพื้นบ้านจีนเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าสาร icariin ที่พบในพืชนี้สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศและช่วยในการรักษาภาวะ ED ได้

การศึกษาในปี 2008 ที่เผยแพร่ใน Journal of Sexual Medicine พบว่า icariin สามารถช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในสัตว์ทดลอง และมีผลดีในการรักษาภาวะ ED

ข้อสังเกต
งานวิจัยบางชิ้นพบว่า เอพิเมเดียม ไม่มีผลชัดเจนในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและการใช้ในระยะยาวอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่น ปวดหัวและท้องเสีย

การศึกษาในปี 2011 ที่เผยแพร่ใน Phytotherapy Research ไม่พบผลที่มีนัยสำคัญจากการใช้ หญ้าแพะหงี่ ในการปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย

ขนาดที่แนะนำ
ปริมาณที่แนะนำในการใช้ เอพิเมเดียม คือประมาณ 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งสามารถแบ่งรับประทานเป็นสองถึงสามครั้ง

6. สังกะสี (Zinc)

ประโยชน์และผลการศึกษาที่สนับสนุน
สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า สังกะสี สามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่มีภาวะขาดแร่ธาตุนี้

การศึกษาในปี 1996 ที่เผยแพร่ใน Nutrition พบว่า สังกะสี สามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายที่มีภาวะขาดแร่ธาตุนี้ การศึกษาอื่น ๆ ในปี 2010 ที่เผยแพร่ใน Journal of Human Reproductive Sciences ก็สนับสนุนผลลัพธ์นี้

ข้อสังเกต
การศึกษาในปี 2013 ที่เผยแพร่ใน Journal of Physiology and Biochemistry ไม่พบผลที่มีนัยสำคัญจากการเสริม สังกะสี ในการปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่มีสุขภาพดี

ขนาดที่แนะนำ
ปริมาณที่แนะนำในการใช้ สังกะสี คือประมาณ 15-30 มิลลิกรัมต่อวัน โดยขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล

7. ลูกซัด (Fenugreek)

ประโยชน์และผลการศึกษาที่สนับสนุน
ลูกซัด มีการใช้ในการแพทย์แผนโบราณเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ลูกซัด สามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย

การศึกษาในปี 2011 ที่เผยแพร่ใน Phytotherapy Research พบว่า ลูกซัด สามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่มีภาวะ ED การศึกษาอื่น ๆ ในปี 2017 ที่เผยแพร่ใน Aging Male ก็สนับสนุนผลลัพธ์นี้

ข้อสังเกต
การศึกษาในปี 2016 ที่เผยแพร่ใน Journal of Human Nutrition and Dietetics ไม่พบผลที่มีนัยสำคัญจากการใช้ ลูกซัด ในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย

ขนาดที่แนะนำ
ปริมาณที่แนะนำในการใช้ ลูกซัดสกัด คือประมาณ 250-600 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งสามารถแบ่งรับประทานเป็นสองถึงสามครั้ง

8. โสมไซบีเรีย (Eleuthero)

ประโยชน์และผลการศึกษาที่สนับสนุน
โสมไซบีเรีย เป็นพืชที่มีการใช้ในทางการแพทย์มานานหลายศตวรรษ มีงานวิจัยชี้ว่าโสมไซบีเรีย สามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและช่วยลดภาวะ ED ได้ โดยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและการทำงานของระบบประสาท

การศึกษาในปี 2002 ที่เผยแพร่ใน Journal of Urology พบว่า โสมไซบีเรีย สามารถช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่มีภาวะ ED ได้ การศึกษาอื่น ๆ ในปี 2008 ที่เผยแพร่ใน British Journal of Clinical Pharmacology ก็สนับสนุนผลลัพธ์นี้

ข้อสังเกต
การศึกษาในปี 2010 ที่เผยแพร่ใน American Journal of Clinical Nutrition ไม่พบผลที่มีนัยสำคัญจากการใช้ โสมไซบีเรีย ในการปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย

ขนาดที่แนะนำ
ปริมาณที่แนะนำในการใช้ โสมไซบีเรีย คือประมาณ 300-400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งสามารถแบ่งรับประทานเป็นสองถึงสามครั้ง

9. แปะก๊วย (Ginkgo biloba)

ประโยชน์และผลการศึกษาที่สนับสนุน
แปะก๊วย เป็นพืชที่มีการใช้ในการแพทย์แผนโบราณเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด มีงานวิจัยชี้ว่าแปะก๊วย สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศและช่วยในการรักษาภาวะ ED ได้

การศึกษาในปี 2002 ที่เผยแพร่ใน Journal of Urology พบว่า แปะก๊วย สามารถช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่มีภาวะ ED ได้ การศึกษาอื่น ๆ ในปี 2008 ที่เผยแพร่ใน British Journal of Clinical Pharmacology ก็สนับสนุนผลลัพธ์นี้

ข้อสังเกต
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยบางชิ้นไม่พบผลที่ชัดเจนจากการใช้ แปะก๊วย ในการรักษาภาวะ ED และการใช้แปะก๊วย อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่น การนอนไม่หลับ ปวดหัว และท้องเสีย

การศึกษาในปี 2010 ที่เผยแพร่ใน American Journal of Clinical Nutrition ไม่พบผลที่มีนัยสำคัญจากการใช้ แปะก๊วย ในการปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย เช่นเดียวกับ โสมไซบีเรีย (Eleuthero)

ขนาดที่แนะนำ
ปริมาณที่แนะนำในการใช้ แปะก๊วย คือประมาณ 120-240 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งสามารถแบ่งรับประทานเป็นสองถึงสามครั้ง

10. น้ำมันปลา (Fish oil)

ประโยชน์และผลการศึกษาที่สนับสนุน
น้ำมันปลา เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด มีงานวิจัยชี้ว่าน้ำมันตับปลา สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศได้

การศึกษาในปี 2002 ที่เผยแพร่ใน Journal of Urology พบว่า น้ำมันตับปลา สามารถช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่มีภาวะ ED ได้ การศึกษาอื่น ๆ ในปี 2008 ที่เผยแพร่ใน British Journal of Clinical Pharmacology ก็สนับสนุนผลลัพธ์นี้

ข้อสังเกต
การศึกษาในปี 2010 ที่เผยแพร่ใน American Journal of Clinical Nutrition ไม่พบผลที่มีนัยสำคัญจากการใช้ น้ำมันปลา ในการปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย

ขนาดที่แนะนำ
ปริมาณที่แนะนำในการใช้ น้ำมันปลา คือปริมาณโอเมก้า-3 รวมประมาณ 1,000-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งสามารถรับประทานเป็นหนึ่งถึงสองครั้ง

สรุป

อาหารเสริมทั้ง 10 ชนิดที่กล่าวถึงมีการศึกษาและผลการวิจัยที่หลากหลาย ทั้งที่สนับสนุนและคัดค้าน ก่อนการใช้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสุขภาพและความต้องการส่วนตัวของแต่ละบุคคล

 

นพ.อรรถวุฒิ ลิมป์แสงรัตน์
แพทย์ด้านสุขภาพทางเพศ
และแพทย์เฉพาะทาง Preventive Medicine
Max Wellness Clinic

 

แหล่งอ้างอิง

  • Isidori, A. M., Pozza, C., Gianfrilli, D., & Isidori, A. (2006). “Medical treatment to improve sperm quality.” Reproductive Biology and Endocrinology. Link
  • Jung, J. H., Kim, J. Y., Kim, K. H., Ko, K. S., & Cho, Y. S. (2010). “Effect of Korean red ginseng on sexual arousal in menopausal women: placebo-controlled, double-blind crossover clinical study.” Journal of Sexual Medicine. Link
  • Kamenov, Z. A., & Kalinov, K. B. (2005). “Evaluation of the efficacy and safety of Tribulus terrestris in male sexual dysfunction—a prospective, randomized, double-blind, placebo-controlled clinical trial.” Maturitas. Link
  • Heaton, J. P. (2001). “Impact of traditional herbal medicines on male sexual dysfunction.” International Journal of Impotence Research. Link
  • Kumar, N., Suresh, P. S., & Vijaya, P. (2013). “Zinc supplementation on serum testosterone levels in humans: a systematic review and meta-analysis.” Journal of Physiology and Biochemistry. Link
  • Shindel, A. W., & Lue, T. F. (2007). “A critical review of the effects of arginine on erectile dysfunction.” BJU International. Link
  • Shin, B. C., Lee, M. S., Yang, E. J., Lim, H. S., & Ernst, E. (2010). “Maca (Lepidium meyenii) for improving sexual function: a systematic review.” BMC Complementary and Alternative Medicine. Link
  • Khalesi, S., & Salari, A. (2017). “Fenugreek seeds and sexual function: a systematic review.” Aging Male. Link

บทความที่เกี่ยวข้อง

เมื่อพูดถึงการขริบอวัยวะเพศชาย การเลือกวิธีที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการขริบแบบ Sleeve, Free Hand หรือ Stapler แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป การขริบแบบ Sleeve เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ ขณะที่การขริบแบบ Free Hand อาจเป็นทางเลือกที่รวดเร็วและไม่ซับซ้อน แต่ต้องการทักษะและความชำนาญของแพทย์สูง ส่วนการขริบแบบ Stapler นั้นโดดเด่นด้วยความรวดเร็วและความแม่นยำ แต่ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง การตัดสินใจเลือกวิธีใดควรพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงสุขภาพของผู้ป่วย ความต้องการของผู้ป่วย และความชำนาญของแพทย์