ยาที่ใช้กันหลักๆ ในการรักษาภาวะ ED (Erectile Dysfunction) หรืออการการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ที่นิยมใช้ในไทย มีอยู่ 2 ตัว คือ
1.Sildenafil หรือที่เรารู้จักกันในชื่อการค้าว่า Viagra, Sidegra
2.Tadalafil หรือที่เรามักรู้จักกันในชื่อการค้าว่า Cialis, Talafil
ยาทั้ง 2 ตัวนี้อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า PDE5I กลไกการออกทธิ์ของยา คือ การทำให้ Nitric Oxide (NO) อยู่นานขึ้น ซึ่งร่างกายของเราใช้เจ้า NO ทำให้กล้ามเนื้อเรียบรอบหลอดเลือดคลายตัว ทำให้เส้นเลือดขยาย มีเลือดไหลเข้ามาในอวัยวะเพศมากขึ้น จนเกิดเป็นการแข็งตัวขึ้นมา
จากสถิตเราพบว่ามีคนไข้มากถึง 30-35% ที่ทานยาแล้วไม่ได้ผล สาเหตุอาจเกิดจาก 5 ข้อ ต่อไปนี้คือ
1.ทานยาไม่ถูกวิธี
-ทานผิดเวลา: ยากลุ่มนี้ตัวต้องทานล่วงหน้า 30 ถึง 60 นาที ก่อนมีเพศสัมพันธ์
-ทานคู่กับอาหารมื้อใหญ่หรือแอลกอฮอล์ทำให้การดูดซึมยาลดลง (โดยเฉพาะตัว Sildenafil)
-ทานขนาดไม่เหมาะสม เช่น ใช้ปริมาณยาน้อยไป (อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ในการปรับขนาดยา)
2.มีภาวะหลอดเลือดตีบแข็ง (Atherosclerosis) รุนแรงมากจนยาเอาไม่อยู่
ถึงแม้กลไกของยาจะช่วยขยายหลอดเลือดชั่วคราว แต่ก็มีขีดจำกัด ถ้าการตีบแข็งของหลอดเลือดหนักมาก กรณีนี้ต้องใช้การรักษาวิธีอื่น ที่เน้นชะลอความเสี่อมของหลอดเลือดร่วมด้วย ร่วมด้วย เช่น
– การปรับรูปแบบการใช้ชีวิต (Life Style Modification)
– การควบคุมโรคประจำตัวกลุ่มโรคเรื้อรัง เบาหวาน ไขมัน ความดันให้ดี
– การรักษาด้วยเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อฟื้นฟูหลอดเลือด เช่น การทำช็อคเวฟ (Shockwave Therapy), การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (P-shot: PRP)
3. มีการบาดเจ็บหรือมีความเสียหายของระบบประสาทเ ช่น ผ่านการผ่าตัดต่อมลูกหมากมา ในกรณีนี้ยากลุ่ม PDE5I ก็อาจจะไม่ได้ผล
4. มีปัญหาเรื่องฮอร์โมนผิดปกติ
– คนไข้กลุ่มต้องได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนร่วมด้วยจึงได้ผล
5. น้องชายไม่สู้จากปัญหาด้านจิตใจ
-ถ้าเป็นหนักอาจต้องให้นักจิตวิทยาหรือ Sex Therapist ช่วยรักษา
Please fill out the from in this section to contact me.
All rights reserved © 2024 Max Wellness Clinic